โพสต์แนะนำ

สัญลักษณ์ไฟโชว์ที่หน้าปัดรถยนต์

สัญลักษณ์นี้เป็นสัญลักษณ์พื้นฐานของรถยนต์ทุกค่ายที่พึงมี รูปร่างอาจต่างกันนิดหน่อยครับ

Wednesday, February 10, 2021

ศัพท์ข่าวรายวัน 10-February-2021



เมนู:รวมศัพท์ข่าว

ศัพท์ข่าวสั้นรายวัน
ศัพท์ข่าวรายวัน
ศัพท์ข่าวการเมือง
ศัพท์ข่าวเดียวกัน
ศัพท์ข่าวไทยในต่างแดน


สำนักข่าว : บีบีซี (Twitter)
สำนักข่าว : บีบีซี (Website)
Pandemic means young people face cancer treatment alone
โรคระบาดทำให้วัยรุ่นต้องเผชิญกับการรักษามะเร็งเพียงลำพัง

Covid restrictions have made this year much tougher for young people already dealing with a cancer diagnosis.
ข้อจำกัดของโควิดทำให้ปีนี้ยากลำบากขึ้นมากสำหรับคนหนุ่มสาวที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งแล้ว
Sophie, like many other young cancer patients, has had to attend appointments and treatments alone, with no family or friends at her side.
โซฟีก็เหมือนกับผู้ป่วยมะเร็งอายุน้อยคนอื่น ๆ ที่ต้องมาตามนัดหมายและรักษาเพียงลำพังโดยไม่มีครอบครัวหรือเพื่อน ๆ อยู่เคียงข้าง

"My mum was crying, I was crying and she had to leave me at the door and drive off," the 24-year-old says.
"แม่ของฉันกำลังร้องไห้ ฉันร้องไห้ และเธอต้องทิ้งฉันไว้ที่ประตูและขับรถออกไป" วัยรุ่นอายุ 24 ปีกล่าว

Last year, she was told she would need hospital treatment for five weeks, 70 miles away from home.
เมื่อปีที่แล้วเธอได้รับการบอกว่าจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาห้าสัปดาห์ ซึ่งห่างจากบ้าน 70 ไมล์

"We had to travel to Manchester so my mum drove me," Sophie says.
"เราต้องเดินทางไปแมนเชสเตอร์แม่ของฉันจึงขับรถพาฉันไป" โซฟีกล่าว

"We got to the door and I had my suitcase - I was struggling alone with this suitcase.
"เราไปถึงประตูและฉันมีกระเป๋าเดินทาง - ฉันกำลังต่อสู้อยู่คนเดียวกับกระเป๋าเดินทางใบนี้

"My mum was terrified leaving me, because she was probably thinking, 'I can't be there to comfort her,' and as well, if things go wrong, would she be walking back out of the hospital?"
"แม่ของฉันกลัวมากที่ทิ้งฉันไปเพราะเธอคงกำลังคิดว่า 'ฉันไม่สามารถอยู่ที่นั่นเพื่อปลอบใจเธอได้' และถ้าเกิดอะไรผิดพลาด, เธอจะเดินกลับออกจากโรงพยาบาลหรือไม่?"

Rules on who can visit have varied at different hospitals throughout the pandemic but official NHS England advice is that young cancer patients should be able to have friends and family supporting them at appointments in a Covid-safe way.
กฎเรื่องผู้ที่สามารถไปเยี่ยมได้แตกต่างกันไปในแต่ละโรงพยาบาลเนื่องจากมีโรคระบาด แต่คำแนะนำอย่างเป็นทางการของ NHS England คือผู้ป่วยมะเร็งอายุน้อยควรมีเพื่อน และครอบครัวที่คอยดูแลพวกเขาในการนัดหมายด้วยวิธีที่ปลอดภัยจากโควิด

Mikaela, 18, from Frome, needed treatment for cancer last March.
Mikaela อายุ 18 ปีจากเมือง Frome, ต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

She had three weeks of radiotherapy, fertility treatment to freeze her eggs and a biopsy operation.
เธอได้รับการฉายแสงเป็นเวลาสามสัปดาห์, การรักษาภาวะเจริญพันธุ์โดยแช่แข็งไข่ของเธอและทำการตรวจชิ้นเนื้อ

Mikaela's mother was able to go with her for a couple of chemotherapy sessions - but lockdown rules changed that.
แม่ของมิคาเอลาสามารถไปกับเธอเพื่อรับเคมีบำบัดได้สองครั้ง แต่กฎการล๊อคดาวน์ทำให้เปลี่ยนไป

And Mikaela had to attend appointments - and have a stem-cell transplant - alone.
และมิคาเอลาต้องมาตามนัดหมายและรับการปลูกถ่ายสเตมเซลล์เพียงลำพัง

คำศัพท์ข่าว
- alone = เดียวดาย, เพียงลำพัง
- as well = เช่นเดียวกัน
- be able = สามารถ
- biopsy = การตรวจชิ้นเนื้อ (การตรวจสอบเนื้อเยื่อเพื่อค้นหาสาเหตุของโรค)
- chemotherapy = เคมีบำบัด
- comfort (v) = ปลอบใจ, ปลอบประโลม
- couple = สอง, สองสิ่ง, คนสองคน
- fertility = ภาวะเจริญพันธุ์, อัตราการเกิดของประชากร
- go wrong = เกิดผิดพลาด, เกิดเรื่องไม่ดี
- pandemic = (แพนเดมิค) การระบาดครั้งใหญ่, มีการแพร่กระจายทั่วพื้นที่/ ทั่วโลก
- radiotherapy = รังสีบำบัด, การฉายแสง, การรักษาด้วยการรังสี
- session = เซสชัน, วาระ, ช่วงเวลา (ช่วงเวลาที่ใช้ในการทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง)
- struggle (v) = ต่อสู้ดิ้นรน, ต่อสู้กับปัญหา, ต่อสู้เพื่อความอยู่รอด, ดิ้นรนหาทางออก
- throughout = โดยตลอด, ตลอดจน, ทุก
- transplant (n) การปลูกถ่าย
- varied (vary) = ผันผวน, แปรผัน, เปลี่ยนแปลง



สำนักข่าว : บีบีซี (Twitter)
สำนักข่าว : บีบีซี (Website)
‘Public toilets smell nice to me now’
"ห้องน้ำสาธารณะมีกลิ่นหอมสำหรับฉันตอนนี้"

The BBC speaks to three people struggling with changing smells and tastes after having Covid-19
BBC พูดกับคนสามคนที่กำลังทุลักทุเลกับการรับกลิ่นและรสที่เปลี่ยนไปหลังจากมีเชื้อโควิด -19

Loss of smell, or anosmia, is the most common symptom of Covid-19, with many patients reporting that or parosmia, a condition where tastes and smells are distorted.
การไม่รับรู้กลิ่นหรือเจ็บป่วยจนไม่ได้กลิ่นเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของ Covid-19 โดยมีผู้ป่วยจำนวนมากรายงานว่าหรือ บอกว่าเกิดอาการผิดปกติในการรับกลิ่น, ซึ่งเป็นภาวะที่รสชาติและกลิ่นผิดเพี้ยน

But ear, nose and throat specialists feel the conditions, which can have a huge impact on people’s lives, are often overlooked.
แต่ว่าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หู, จมูก, ลำคอ รู้สึกว่าสภาวะต่างๆซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของผู้คนมักถูกมองข้ามไป

Emerging research suggests people could be affected long after they recover from Covid.
การวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่าผู้คนอาจได้รับผลกระทบเป็นเวลานานหลังจากหายป่วยจากโรคโควิด

BBC Breakfast's Tim Muffett speaks to three women struggling with changing tastes and smells.
Tim Muffett จากรายการ BBC Breakfast พูดกับผู้หญิงสามคนที่ต่อสู้อยู่กับรสชาดและกลิ่นที่เปลี่ยนไป

คำศัพท์ข่าว
- affected (affect) = ผลกระทบ, กระทบกระเทือน
- anosmia (การสูญเสียความรู้สึกของกลิ่นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน อาจเกิดจากการบาดเจ็บที่ศีรษะการติดเชื้อหรือการอุดตันของจมูก)
- distorted (adj) = ผิดเพี้ยน, บิดเบี้ยว
- huge (adj) = มาก, ขนาดใหญ่
- impact (n) = ผลกระทบ
- overlook (v) = มองข้าม
- parosmia = ความผิดปกติในการรับกลิ่น
- specialist = ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
- struggle (v) = ต่อสู้ดิ้นรน, ต่อสู้กับปัญหา, ต่อสู้เพื่อความอยู่รอด, ดิ้นรนหาทางออก



สำนักข่าว : ซีเอ็นเอ็น
Fossil fuel air pollution causes almost 1 in 5 deaths globally each year
มลพิษทางอากาศจากการใช้พลังงานฟอสซิลทำให้มีการเสียชีวิตทั่วโลกเกือบ 1 ใน 5 ในแต่ละปี

(CNN) - More than 8 million people around the world die each year as a result of breathing polluted air that contains particles from fossil fuels, a new study has found.
(CNN)มีมากว่า 8 ล้านคนทั่วโลกที่เสียชีวิตในแต่ละปีจากจากการหายใจเอาอากาศเสียที่มีอนุภาคจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเข้าไป, พบจากการศึกษาใหม่

Burning fossil fuels such as coal and oil produces greenhouse gases that trap solar radiation in the atmosphere and cause climate change.
การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่น ถ่านหินและผลิตภัณฑ์น้ำมันทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกที่ดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์ในชั้นบรรยากาศและเป็นสาเหตุให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

But it also releases tiny poisonous particles known as PM2.5. Small enough to penetrate deep into the lungs, these particles can aggravate respiratory conditions like asthma and can lead to lung cancer, coronary heart disease, strokes and early death.
แต่มันก็ยังปล่อยอนุภาคขนาดเล็กที่เป็นพิษ ซึ่งเรารู้จักกันว่าPM2.5 มันมีขนาดเล็กพอที่จะเข้าไปลึกถึงในปอด อนุภาคพวกนี้สามารถทำให้สภาวะการหายใจย่ำแย่เช่น หอบหืด และสามารถทำให้เกิดมะเร็งปอด, โรคหลอดเลือดหัวใจ , โรคหลอดเลือดสมอง และตายเร็ว

Research has also found a link between higher levels of long-term pollution and more deaths from Covid-19.
การวิจัยยังค้นพบอีกว่ามีความเกี่ยวข้องกันระหว่างการสัมผัสมลพิษระดับสูงกว่าเป็นเวลานานกับการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากโควิด-19

In a study published in the journal Environmental Research on Tuesday, researchers from Harvard University, in collaboration with the University of Birmingham, the University of Leicester and University College London, found that exposure to particulate matter from fossil fuel emissions accounted for 18% of total global deaths -- almost one in five -- in 2018.
การศึกษานี้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Environmental Researchเมื่อวันอังคาร โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดร่วมกับมหาวิทยาลัยเบอมิงแฮม, มหาวิทยาลัยเลสเตอร์ และมหาวิทยาลัยคอลเลดจ ลอนดอน ได้พบว่าการสัมผัสกับฝุ่นที่ปลดปล่อยออกมาจากการเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตคิดเป็น 18% ของทั้งหมดบนโลกนี้ ซึ่งเกือบจะเป็นหนึ่งในห้าในปี 2018

The figure is much higher than previously thought.
ตัวเลขนี้สูงกว่าที่เคยคิดไว้ก่อนหน้า

As recently as in 2019, scientists were estimating that 4.2 million people die each year from outdoor airborne particulate matter pollution, a figure that included people who die because of pollution from dust and smoke from wildfires and agricultural fires.
เมื่อไม่นานมานี้ในปี2019 นักวิทยาศาสตร์ได้ประมาณว่าในแต่ละปีจะมี 4.2 ล้านคนเสียชีวิตจากฝุ่นมลพิษในอากาศนอกบ้าน โดยตัวเลขนี้รวมผู้คนที่เสียชีวิตเนื่องจากมลพิษจากเศษฝุ่นและควันจากไฟไหม้ป่าและไฟที่เกิดจากการทำการเกษตร

The new study shows that in 2018, estimated 8.7 million deaths were linked to fossil fuel emissions alone.
การศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่าในปี 2018 มีผู้เสียชีวิตประมาณ 8.7ล้านคนที่มีความเกี่ยวข้องกับสารที่ปลดปล่อยจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเพียงอย่างเดียว

They found that China, India, parts of the eastern US, Europe and Southeast Asia were the worst impacted.
พวกเขาพบว่า จีน, อินเดีย, บางส่วนทางตะวันออกของสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุด

According to the data, as many as 30.7% of deaths in Eastern Asia, 16.8% in Europe and 13.1% in the US can be attributed to fossil fuel pollution.
จากข้อมูลมีการเสียชีวิตมากถึง 30.7% ในเอเชียตะวันออก, 16.8%ในยุโรป และ13.1%ในสหรัฐอเมริกาที่สามารถนับได้ว่ามีสาเหตุจากมลพิษจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

คำศัพท์ข่าว
- aggravate (v) = ทำให้แย่ลง, ทำให้สถานการ์ณแย่ลง
- agricultural (adj) = ที่เกี่ยวกับเกษตรกรรม
- airborne = ที่ส่งโดยทางอากาศ
- atmosphere = บรรยากาศ
- atmospheric chemistry = เคมีบรรยากาศ
- attributed คุณลักษณะ, ให้ความน่าเชื่อถือกับ, เกิดจาก
- collaboration = การร่วมมือ
- emissions(v) การปล่อย การฟุ้งกระจาย
- particulate (n) = อนุภาค, ที่แยกเป็นส่วนย่อยๆ
- penetrate = ผ่านเข้าไป, ทะลุเข้าไป, แทรกซึมเข้าไป

No comments:

Post a Comment