แหล่งข่าว : New York Post
FDA wants to radically reduce salt in the nation’s food supply
องค์การอาหารและยาต้องการลดเกลือในแหล่งอาหารของประเทศจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
Health officials are urging food manufacturers and services to take drastic action against America’s insatiable appetite for salt.
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังเรียกร้องให้ผู้ผลิตและบริการอาหารดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อความอยากเติมเกลือในอาหารอย่างไม่สิ้นสุดของอเมริกา
The Food and Drug Administration has asked food-producing companies to slash the amount of salt in their products by at least 12%, giving businesses 2½ years to hit the mark, according to a statement made Wednesday.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ขอให้บริษัทผู้ผลิตอาหารลดปริมาณเกลือในผลิตภัณฑ์ของตนลงอย่างน้อย 12% และให้เวลากับธุรกิจ 2½ ปี ที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย โดยอ้างอิงข้อมูลจากคำแถลงเมื่อวันพุธ
“What we’d like to see is the food industry gradually lower the sodium content,” Acting FDA Commissioner Dr. Janet Woodcock told NBC News, targeting conventionally purchased foods and groceries — namely, processed and prepackaged foods, such as condiments, snacks and frozen dinners, as well as dishes from chain restaurants.
“สิ่งที่เราอยากเห็นคืออุตสาหกรรมอาหารค่อยๆ ลดปริมาณโซเดียมลง” รักษาการผู้อำนวยการองค์การอาหารและยา ดร.เจเน็ต วูดค็อก กล่าวกับสำนักข่าว NBC News โดยมุ่งเป้าไปที่การซื้ออาหารและของชำตามปกติทั่วไปนั่นคือ อาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูปเช่น เครื่องปรุงรส ของว่างและอาหารเย็นแช่แข็ง รวมทั้งอาหารจากร้านอาหารสาขาต่างๆ
They hope the new guidance will reduce rates of heart disease — the No. 1 cause of premature death in the US. Reducing sodium intake “would have a major impact on hypertension, heart disease and stroke,” Woodcock added.
พวกเขาหวังว่าคำแนะนำใหม่นี้จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับ 1 ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในสหรัฐอเมริกา การลดการบริโภคโซเดียม “จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง” วูดค็อกกล่าวเสริม
The current Dietary Guidelines for Americans calls for adults to consume no more than 2,300 milligrams, or about one teaspoon, of sodium per day — well below the national daily average of about 3,400 milligrams of sodium.
แนวทางปฏิบัติด้านอาหารสำหรับชาวอเมริกันในปัจจุบันเรียกร้องให้ผู้ใหญ่บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมหรือประมาณหนึ่งช้อนชาต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโซเดียมรายวันของประเทศที่อยู่ประมาณ 3,400 มิลลิกรัม
The new recommendations would see that Americans reduce that average down to 3,000 milligrams, a 12% decrease.
คำแนะนำใหม่จะทำให้เห็นว่าคนอเมริกันลดค่าเฉลี่ยนั้นลงเหลือ 3,000 มก. คือลดลง 12% และในขณะที่บริษัทต่างๆ ไม่ได้ถูกกำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม วูดค็อกกล่าวว่าบริษัทที่ทำนั้นจะได้รับ "รางวัล" สำหรับการกระทำของพวกเขา แม้ว่าองค์การอาหารและยาไม่ได้ชี้แจงว่ารางวัลจะนำมาซึ่งอะไร
And while companies are not required to comply, Woodcock said that those that do would receive a “reward” for their action, though the FDA did not clarify what the prize would entail.
และในขณะที่บริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม วูดค็อกกล่าวว่าบริษัทที่ทำนั้นจะได้รับ "รางวัล" สำหรับการกระทำของพวกเขา แม้ว่าองค์การอาหารและยาไม่ได้ชี้แจงว่ารางวัลจะนำมาซึ่งอะไร
Physicians outside federal agencies agree that salt intake must come down if we hope to challenge the nation’s hypertension epidemic, in which nearly half of all U.S. adults have high blood pressure.
แพทย์นอกหน่วยงานของรัฐบาลกลางเห็นพ้องต้องกันว่าการบริโภคเกลือจะต้องลดลง หากเราหวังว่าจะท้าทายการแพร่ระบาดของโรคความดันโลหิตสูงในประเทศ ซึ่งเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดมีความดันโลหิตสูง
Too much salt can inhibit the kidneys from expelling fluid from the body, leading to a build-up that puts pressure on blood vessels, causing them to stiffen and narrow over time.
เกลือที่มากเกินไปสามารถยับยั้งไตไม่ให้ขับของเหลวออกจากร่างกาย นำไปสู่การสะสมที่ทำให้มีแรงดันต่อหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดขาดความยืดหยุ่นและแคบลงเมื่อเวลาผ่านไป
As a result, the flow of blood and oxygen throughout the body decreases, raising one’s risk of heart damage, fat accumulation in the arteries and ischemic stroke.
ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนทั่วร่างกายลดลง เพิ่มความเสี่ยงของบุคคลต่อโรคหัวใจ มีการสะสมของไขมันในหลอดเลือดแดงและโรคหลอดเลือดสมองตีบ
However, not all physicians agree with the sweeping new guidelines, including cardiovascular researcher and “The Salt Fix” author James DiNicolantonio, who called for a nuanced approach to dietary recommendations.
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แพทย์ทุกคนที่เห็นด้วยกับแนวทางใหม่ที่ใช้ไปทั่วนี้ ซึ่งรวมถึงนักวิจัยด้านโรคหัวใจและหลอดเลือดและ เจมส์ ดิ นิโกแลนโตนิโอ ผู้เขียนหนังสือ "The Salt Fix" ซึ่งเรียกร้องให้มีแนวทางที่เหมาะสมกับคำแนะนำด้านอาหาร
As a research scientist at Saint Luke’s Mid America Heart Institute and associate editor of the journal BMJ Open Heart, DiNicolantonio claims that our standard salt consumption “does not seem to be a problem for most people” already on a nutritious, whole-food diet, he told The Post in a statement.
ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ด้านการวิจัยที่สถาบันโรคหัวใจเซนต์ลุค มิด อเมริกา ฮาร์ท อินสติติวท์ และรองบรรณาธิการของวารสารบีเอ็มจี โอเพน ฮาร์ท นายดินิโกแลนโตนิโอ ได้อ้างว่าการบริโภคเกลือตามมาตรฐานปกติของเรา “ดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาสำหรับคนส่วนใหญ่” ที่ทานอาหารโดยรวมเหมาะสมทางโภชนาการอยู่แล้ว, เขาบอกกับสำนักข่าว The Post ในแถลงการณ์
His work has revealed “that approximately 80% of people with normal blood pressure … are not sensitive to the blood-pressure-raising effects of salt at all,” he wrote in his 2017 book, and asserted that healthy adults — excluding, in particular, those with kidney disease — could have up to 6,000 milligrams of sodium a day with no ill effects.
ผลงานของเขาเผยให้เห็นว่า “ประมาณ 80% ของผู้ที่มีความดันโลหิตปกติ ไม่รู้สึกมีผลความดันโลหิตสูงขึ้นจากเกลือเลย” เขาได้เขียนไว้ในหนังสือปีค.ศ. 2017 ของเขา และยืนยันว่าผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี ยกเว้นโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคไต สามารถรับโซเดียมได้สูงถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวันโดยไม่มีผลทำให้เจ็บป่วยใดๆ
คำศัพท์ข่าว
- accumulation (n) = การทับถม/หมักหมม/เพิ่มขึ้น
- appetite (n) = ความหิว, ความต้องการอาหาร
- associate editor = ผู้ช่วยบรรณาธิการ
- assert (v) = ระบุข้อเท็จจริงหรือความเชื่ออย่างมั่นใจและบังคับ
- blood-pressure-raising (compound) = ความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้น
- build-up (compound) = การทับถม/หมักหมม/เพิ่มขึ้น(มักจะนำไปสู่ปัญหา)
- cardiovascular (adj) = เกี่ยวกับหัวใจและหลอด
- condiment (n) = เครื่องปรุงอาหาร
- consumption (n) = บริโภค (การกิน, การใช้)
- diet (n) = การควบคุมอาหาร, การเลือกกินอาหารให้เหมาะสม
- drastic (adj) = มาก, สุดขีด
- food-producing (compound) = ที่ซึ่งกำลังผลิตอาหาร
- FDA (Food and Drug Administration) = องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- inhibit (v) = ห้าม, ขัดขวาง, ยับยั้ง
- insatiable (adj) = ซึ่งไม่รู้จักพอ, ซึ่งมักมาก
- manufacturer (n) = ผู้ผลิต
- negotiation (n) = การต่อรอง, เจรจาต่อรอง, ปรึกษาหารือ
- nutritious (adj) = มีคุณค่าทางโภชนาการ
- physician (n) = แพทย์
- premature (adj) = ก่อนเวลาอันควร, ยังไม่ครบกำหนด
- radically (adv) = แตกต่างอย่างสิ้นเชิง (แตกต่างจากปกติมาก)
- recommendation (n) = คำแนะนำ(แนวทางปฏิบัติที่ดี จากองค์กร/หน่วยงานที่มีอำนาจ)
- sensitive (adj) = ซึ่งไวต่อสิ่งกระตุ้น, รับความรู้สึกได้ง่าย, ที่ละเอียดอ่อน
- slash = ตัด, เฉือน, หั่น (ลดจำนวน/ปริมาณ)
- throughout (adv) = โดยตลอด (ทุกหนทุกแห่ง, ทุกส่วน, ทั่วทั้ง)
- to hit the mark = ประสบความสำเร็จในความพยายามหรือแม่นยำในการเดา
- whole-food (compound) = อาหารทั้งหมด
- แหล่งข่าว : CNBC
New FDA guidance aims to drastically cut salt in food supply
- แหล่งข่าว : Awsforwp
New FDA guidelines aim to drastically reduce salt in food supply
แหล่งข่าว : ABC
Woman who struggled for months with weight gain diagnosed with 17-pound cancerous tumor
ผู้หญิงที่ดิ้นรนมาหลายเดือนกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกขนาด 17 ปอนด์
"I had no other symptoms other than my stomach," said Amanda Shoultz, 29.
“ฉันไม่มีอาการอื่นใดนอกจากท้องของฉัน” อแมนด้า โชลท์ซ วัย 29 ปีกล่าว
Amanda Shoultz said she spent most of the past year trying to lose weight after noticing that her stomach kept getting bigger.
อแมนด้า โชลท์ซ กล่าวว่าเธอใช้เวลาเกือบหนึ่งปีในการลดน้ำหนักหลังจากสังเกตเห็นว่าท้องของเธอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
"I started working out more. I was dieting more and, oddly enough, I was losing weight but I was gaining inches in my stomach," Shoultz, 29, told "Good Morning America." "For the longest time, I thought, 'Oh, I just must gain weight in my stomach.'"
"ฉันเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น ควบคุมเรื่องอาหารมากขึ้น แต่ไม่เป็นไปตามที่คิด ฉันกำลังน้ำหนักลดลงแต่ท้องของฉันพิ่มขึ้นเป็นนิ้ว” โชลท์ซ วัย 29 ปีบอกกับสำนักข่าว “กู๊ด มอร์นิง อเมริกา” “นานมากๆ แล้วที่ฉันคิดว่า 'โอ้ ฉันต้องเป็นคนอ้วนแค่ที่พุง'
When Shoultz, of Dallas, Texas, went to her annual checkup with her primary care physician in February, she said she was shocked at the number she saw on the scale.
เมื่อโชลท์ซ ชาวเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ไปตรวจสุขภาพประจำปีกับแพทย์ปฐมภูมิในเดือนกุมภาพันธ์ เธอบอกว่าเธอตกใจกับตัวเลขที่เห็นบนตาชั่ง
"I remember telling her, 'The next time you see me I'm going to be 10 pounds lighter,'" said Shoultz. "I just assumed it was my fault. That I had done something wrong."
“ฉันจำได้ว่าบอกกับเธอไว้ว่า 'ครั้งต่อไปที่คุณพบฉัน ฉันจะเบาลง 10 ปอนด์'” โชลท์ซกล่าว “ฉันแค่คิดเอาว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง ที่ฉันได้ทำอะไรผิดไป”
Shoultz's blood work from her doctor's appointment came back normal, so she said she kept changing her diet to see if she had an allergy that was causing her stomach to bloat.
การตรวจเลือดของโชลท์ซจากการนัดหมายของแพทย์มีผลกลับมาเป็นปกติ ดังนั้นเธอบอกว่าเธอพยายามเปลี่ยนอาหารเพื่อดูว่าเธอมีอาการแพ้ที่ทำให้ท้องอืดหรือไม่
"I gave up all dairy products because I thought it was a lactose allergy, and nothing changed.
“ฉันเลิกผลิตผลิตภัณฑ์จากนมทั้งหมดเพราะคิดว่าเป็นการแพ้แลคโตส แล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
Then I gave up gluten. I love bread but I was willing to do anything," she said. "That didn't work so then I gave up meat. None of that helped."
จากนั้นฉันก็เลิกกินกลูเตน ฉันชอบขนมปังมาก แต่ฉันก็เต็มใจทำทุกอย่าง” เธอกล่าว “นั่นไม่ได้ผล ฉันก็เลยเลิกกินเนื้อ ไม่มีอะไรพวกนั้นที่ช่วยซักอย่างเลย”
Doctors discovered that Shoultz's tumor was cancerous.
แพทย์พบว่าเนื้องอกของ โชลท์ซ เป็นมะเร็ง
She was diagnosed with liposarcoma, a rare form of tumor that, in most cases, does not present any symptoms until the tumor grows large and invades other organs or tissues, according to the National Institutes of Health (NIH).
เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ไลโปซาร์โคมา ซึ่งเป็นเนื้องอกที่พบได้น้อย โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่แสดงอาการใด ๆ จนกว่าเนื้องอกจะโตขึ้นและบุกรุกอวัยวะหรือเนื้อเยื่ออื่น ๆ โดยอ้างอิงจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH)
คำศัพท์ข่าว
- allergy (n) = อาการแพ้, ภูมิแพ้
- annual (adj) = ประจำปี, รายปี, ของทุก ๆปี
- bloat (n) = บวม, พอง, อืด
- cancerous (adj) = ที่ซึ่งเป็นมะเร็ง
- checkup (n) = การตรวจร่างกาย
- diet (v) = ควบคุมอาหาร, เลือกทานอาหารที่ดีในปริมาณที่เหมาะสม
- gluten (n) = สารที่อยู่ในเมล็ดพืชโปรตีนชนิดหนึ่งพบมากในแป้ง
- more (adv) = มากขึ้น, เพิ่มมากขึ้น
- notice (v) = สังเกตุ
- oddly (adv) = อย่างแปลกประหลาด
- physician (n) = หมอ, แพทย์
- stomach (n) = กระเพาะอาหาร, พุงกะทิ
- symptom (n) = อาการ, อาการป่วย
- to lose weight = ลดน้ำหนัก
- work out = ออกกำลังกาย
- แหล่งข่าว : GMA
This woman, who struggled for months with weight gain, was diagnosed with 17-pound cancerous tumor.
แหล่งข่าว : ฺฺBBC
Father charged after toddler fatally shot mother during Zoom call
พ่อถูกตั้งข้อหาหลังจากลูกวัยหัดเดินยิงแม่เสียชีวิตขณะใช้โปรแกรมวิดีโอคอลของซูม
A Florida father has been arrested and charged over the fatal shooting of his girlfriend by the couple's two-year-old child in August.
พ่อชาวฟลอริดาถูกจับและตั้งข้อหาจากการที่แฟนสาวถูกยิงเสียชีวิตโดยลูกวัย 2 ขวบของทั้งคู่ในเดือนสิงหาคม
The toddler found Veondre Avery's loaded gun inside a children's backpack while mother Shamaya Lynn was on a work video call, police said.
เด็กวัยหัดเดินพบปืนที่บรรจุกระสุนเอาไว้ของเวออนเดร เอเวอรี่ อยู่ในกระเป๋าเป้ของเด็ก ในขณะที่ชามายา ลินน์ ผู้เป็นแม่อยู่ในวิดีโอคอลของที่ทำงาน, ตำรวจกล่าว
Mr Avery, 22, stands accused of manslaughter and failure to securely store a firearm.
นายเอเวอรี่ วัย 22 ปี ถูกตั้งขัอหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและล้มเหลวในการจัดเก็บอาวุธปืนให้ปลอดภัย
Court records show he does not yet have an attorney and has not entered a plea.
บันทึกของศาลระบุว่าเขายังไม่มีทนายความและไม่ได้ยื่นคำให้การ
Manslaughter is a felony punishable by up to 15 years in prison.
การฆ่าคนตายเป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี
Mr Avery could also see 15 years of probation and a $10,000 (£7,308) fine.
นายเอเวอรี่อาจเจอกับโทษทั้งถูกคุมประพฤติ 15 ปีและปรับ 10,000 ดอลลาร์ (7,308 ปอนด์)
The gun was kept unsecured inside a children's backpack that was left on the floor of the couple's bedroom, according to Altamonte Springs police.
ปืนถูกเก็บไว้โดยประมาทในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเด็กที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นห้องนอนของทั้งคู่ ตามรายงานของตำรวจอัลตามอนเต สปริงส์
They said the toddler took the weapon, moved behind the mother and fired a single shot.
พวกเขากล่าวว่าเด็กวัยหัดเดินหยิบอาวุธ เคลื่อนตัวไปข้างหลังแม่ และยิงปืนหนึ่งนัด
One of Lynn's co-workers on the Zoom video call first phoned in the 11 August incident to emergency responders.
เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของ ลินน์ ในวิดีโอคอลโปรแกรมซูมเป็นคนแรกที่ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม
She reported hearing a loud noise and seeing Lynn fall backward.
เธอแจ้งว่าได้ยินเสียงดังและเห็นลินน์ล้มหงายหลัง
"One of the girls passed out...She has the camera on. Her baby is crying in the back," the co-worker said in a call released by police to local media.
“เด็กผู้หญิงคนหนึ่งหมดสติไป...เธอเปิดกล้องค้างไว้ ลูกของเธอกำลังร้องไห้อยู่ด้านหลัง” เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อในท้องถิ่น
When Mr Avery returned home, he found his girlfriend bleeding on the floor.
เมื่อนายเอเวอรี่กลับบ้าน เขาพบว่าแฟนสาวของเขามีเลือดออกกองอยู่บนพื้น
He called the police and asked paramedics to "please hurry", according to the Orlando Sentinel newspaper.
เขาโทรหาตำรวจและขอทีมแพทย์ "ได้โปรดเร็ว" อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ออร์แลนโด เซนติเนล
During the call, he said he had just returned home and didn't know what happened.
ระหว่างการโทร เขาบอกว่าเขาเพิ่งกลับบ้านและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
He could be heard performing CPR as he waited for help to arrive.
สามารถได้ยินเสียงเขากำลังปั๊มหัวใจ ขณะรอความช่วยเหลือมาถึง
First responders attempted to aid the 21-year-old, but she was pronounced dead at the scene.
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามช่วยบุคคลวัย 21 ปีรายนี้ แต่เธอได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง
"Your decisions have consequences," Altamonte Springs police officer Roberto Ruiz said in a news conference on Tuesday.
“การตัดสินใจของคุณมีผลตามมา” โรแบร์โต รุยซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจอัลตามอนเต สปริงส์ กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร
"You have a responsibility as a gun owner to take care of those firearms."
“คุณมีสิ่งต้องรับผิดชอบ ในฐานะเจ้าของที่ต้องดูแลอาวุธปืนเหล่านั้น ”
คำศัพท์ข่าว
- attorney (UK) (n) = ทนายความ
- be due back in court = มีกำหนดขึ้นศาลอีกครั้ง (มีกำหนดกลับเข้าสู่กระบวนการศาล)
- be left = ถูกทิ้งไว้ (Passive Voice)
- be pronounced dead = ถูกยืนยันว่าเสียชีวิตก่อนเจ้าหน้าที่มาถึง
- consequence (n) = ผลที่ตามมา, ผลลัพธ์ที่จะเกิดภายหลัง
- co-workers = เพื่อนร่วมงาน
- cry (v) = ร้องไห้
- deliberately (adv) = อย่างมีเจตนา, อย่างจงใจ
- emergency responders = เจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน
- fall backward = ล้มหงายหลัง
- felony (n) = ความผิดอาญาร้ายแรง
- fire (v) = ยิงปืน
- firearm (n) = อาวุธปืน
- girlfriend = แฟนสาว
- incident (n) = เหตุการณ์
- manslaughter (n) = การฆ่าคนโดยไม่เจตนา/ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน
- plea (n) = คำให้การ (การให้ข้อมูลของผู้ต้องหา : ศัพท์กฏหมาย)
- owner (n) = เจ้าของ, ผู้ครอบครอง
- responsibility (n) = หน้าที่ความรับผิดชอบ
- securely (adv) = อย่างปลอดภัย
- stand accused = ยืนอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัย/ผู้ถูกกล่าวหา = ตกเป็นผู้ต้องหา
- toddler (n) = เด็กวัยหัดเดิน, เด็กวัยเตาะแตะ
- unsecured (adj) = ไม่มีหลักประกัน, ไม่ได้ทำให้ปลอดภัยหรือปลอดภัย
- video call = โปรแกรมวิดีโอคอล
No comments:
Post a Comment